สินค้าใหม่ ยินดีต้อนรับสู่บ้านรังนกไทย ประวัติและความเป็นมา ที่สำคัญเกี่ยวกับนกแอ่นและการทำฟาร์มนกแอ่นเพื่อเก็บรังมารับประทาน(Historical significance of swiftest, swiflet farming and edible birds’ nests) การค้าขายรังนกแอ่นเพื่อนำไปรับประทาน เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังของประเทศจีน (ค.ศ. 618-907) เมื่อพ่อค้าที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ได้นำรังนกจากเกาะชวา (อินโดนีเชีย) เข้าไปถวายองค์จักรพรรดิ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นของหายากที่มีคุณค่าต่อพระพลานามัย นับแต่นั้นเป็นต้นมาจึงได้รับการยอมรับจากชาวจีนว่ารังนกที่รับประทานได้นั้นถือว่าเป็นเครื่องเสวยสำหรับจักรพรรดิ และต่อมาก็รู้จักกันในนาม”ทองคำเหลว” (Liquids gold) เนื่องจากได้มีพระบัญชาว่าสิ่งนี้เป็นของหายากที่ทรงคุณค่า และมีราคาแพงลิบลิ่ว ก่อนถึงทศวรรษที่1950 ปริมาณรังนกเพื่อการค้าสามารถหามาได้จากถ้ำที่อยู่บนเกาะบอร์เนียว (island of Boneo) และเก็บได้จากเกาะในแถบภาคใต้ของประเทศไทยตามแนวเทือกเขาบนคาบสมุทรมลายูและบนเกาะชวาเพียงเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการทำฟาร์มนกแอ่น ที่มีการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้เกิดระบบการผลิตรังนกแอ่นที่นำมารับประทาน ได้มีการออกแบบและการก่อสร้างอาคารขึ้นเป็นพิเศษ มีเป้าหมายเพื่อให้นกแอ่นมาเกาะทำรัง ได้เริ่มต้นทำกันที่เกาะชวาในทศวรรษ1950 การที่จะทำให้นกแอ่นเข้ามาอยู่ในฟาร์มนกซึ่งออกแบบไว้อย่างพิเศษ ทำได้โดยการออกแบบลักษณะของตัวบ้านนกแอ่นในเรื่องของทิศทางลมและแสง และที่สำคัญคือต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านนกให้เป็นที่พอใจของนกแอ่นด้วย รวมทั้งการวางระบบไม้ตีรัง ให้ถูกต้องกับวงบินของนกแอ่นและการติดตั้งระบบเสียงต่างๆ(เสียงเรียกนอก,เสียงใน,เสียงกล่อม)ให้เป็นที่ต้องการของนกแอ่น ซึ่งปัจจุบันเทคนิคในการออกแบบเรื่องบ้านนกแอ่นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับประเทศไทยอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะสภาพอากาศ ในประเทศไทยพูดได้เลยว่าสามารถที่จะสร้างบ้านนกแอ่นได้ทุกภูมิภาคเลยครับ |
© 2015-2017 bannrungnokthai.com All Rights Reserved. |